ขายกล้อง CANON POWERSHOT G-11 กล้องสภาพสวย จอ LCD 2.8 นิ้ว กางหมุนออกได้ บนกล้องใส่ Flash เสริมเพิ่มได้อีก เลนส์ 28-140 มม ปรับแมนนวล M,AV,TV,P โปรแกรมได้ โฟกัสใบหน้า Scene Mode ถ่าย VDO คมชัดมาก ถ่ายมาโครได้ 1 ซม ใส่เลนส์เสริมเพิ่มด้านหน้าได้อีก

หน้าแรก » กล้อง และ อุปกรณ์ถ่ายภาพ » กล้องดิจิตอล

ขายกล้อง CANON POWERSHOT G-11 กล้องสภาพสวย จอ LCD 2.8 นิ้ว กางหมุนออกได้ บนกล้องใส่ Flash เสริมเพิ่มได้อีก เลนส์ 28-140 มม ปรับแมนนวล M,AV,TV,P โปรแกรมได้ โฟกัสใบหน้า Scene Mode ถ่าย VDO คมชัดมาก ถ่ายมาโครได้ 1 ซม ใส่เลนส์เสริมเพิ่มด้านหน้าได้อีก

แบ่งปันให้เพื่อน


 

 


 
 
 
 
 


 

 


ขายกล้อง CANON POWERSHOT G 11 สภาพสวย พร้อมอุปกรณ์

กล้องดิจิตอลคอมแพคระดับไฮเอนด์ตระกูล G-series เป็นกล้องรุ่นท็อปที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในการทำงาน และมีอุปกรณ์เสริมการทำงานหลายอย่าง รวมทั้งสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์บางอย่างของกล้องแคนนอน EOS ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงมากยิ่งขึ้น และออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานให้สมบูรณ์แบบ ไม่แตกต่างจากกล้องดิจิตอล SLR เท่าใดนัก อาทิ โหมดถ่ายภาพทั้งแบบอัตโนมัติทั้งหมด หรือโหมด Advance เช่น P, TV, AV และ M รวมทั้งเลือกบันทึกด้วยรูปแบบไฟล์ฟอร์แมต RAW ได้ด้วย

Canon PowerShot G11 ใช้เซ็นเซอร์ภาพ CCD ขนาด 1/1.7 นิ้ว ความละเอียดม 10 ล้านพิกเซล ประมวลผลการทำงานด้วยหน่วยประมวลผลภาพความเร็วสูง DIGIC 4 และมาพร้อมเลนส์ออพติคอลซูม 5 เท่า ทางยาวโฟกัส 28-140 มม. (เทียบเท่ากล้องฟิล์ม 35 มม.) บันทึกภาพได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ โดยภาพนิ่งบันทึกด้วยฟอร์แมต JPEG และ RAW แบบเดียวกับกล้อง DSLR โดยมีขนาดไฟล์ใหญ่สุด 3648 x 2736 พิกเซลและปรับลดได้จนถึงขนาด 640 x 480 พิกเซล ส่วนภาพวิดีโอ บันทึกด้วยฟอร์แมต MOV ตามมาตรฐาน H.264 ซึ่งเป็นการบันทึกภาพที่ละเอียดมากขึ้น แต่ขนาดของไฟล์จะเล็กลง ทำให้บันทึกภาพได้นานขึ้น มีขนาดไฟล์ 640 x 480 พิกเซล และ 320 x 240 พิกเซล ที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที

โหมดถ่ายภาพของ G11 ยังคงมีให้เลือกใช้ได้ครบทุกความต้องการของช่างภาพทุกระดับ โดยจะเลือกใช้โหมดถ่ายภาพในกลุ่ม Advance สำหรับผู้ที่ต้องการปรับควบคุมคุณภาพของกล้องเองทั้งหมด ซึ่งมีให้เลือก 4 โหมดคือ โปรแกรม (P), โหมดออโต้รูรับแสง (TV), โหมดออโต้ความเร็วชัตเตอร์ (AV) และปรับเองแบบแมนนวล (M) นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถปรับเซ็ตรูปแบบการถ่ายภาพที่ใช้งานบ่อยๆ หรือรูปแบบการถ่ายภาพเฉพาะตัวเก็บบันทึกไว้ในตำแหน่ง C1 และ C2 เพื่อเลือกใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องคอยปรับเซ็ตใหม่ทุกครั้ง

ส่วนโหมดถ่ายภาพแบบอัตโนมัติมีให้เลือกทั้งโหมดอัตโนมัติเต็มรูปแบบ แสดงเป็นสัญลักษณ์แถบสีเขียวพร้อมตัวอักษร Auto, โหมดถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย แสดงสัญลักษณ์เป็นรูปเทียน, โหมดถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว แสดงเป็นสัญลักษณ์รูปกล้องพร้อมขีด 3 ขีด โหมดนี้กล้องจะโชว์ข้อมูลการปรับตั้งค่าต่างๆ ที่จอมอนิเตอร์ ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนค่าต่างๆได้ด้วยปุ่มควบคุม 4 ทิศทางและแป้น Control Dial ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าไปปรับจากเมนู, Scene Mode แสดงสัญลักษณ์ SCN ผู้ใช้เลือก Scene ต่างๆได้ด้วยแป้น Control Dial และโหมดวิดีโอ แสดงเป็นสัญลักษณ์รูปกล้องวิดีโอ เมื่อบันทึกภาพด้วยโหมดวิดีโอ ผู้ใช้สามารถตัดต่อวิดีโอจากตัวกล้องได้เลยทันที

โหมดออโต้โฟกัสของ G11 เป็นแบบ AiAF TTL มีจุดโฟกัส 9 จุด จะเลือกใช้งานแบบอัตโนมัติโดยกล้องเลือกให้ หรือผู้ใช้สามารถเลือกจุดโฟกัสจุดเดียวทั่วทั้งเฟรมภาพ และจุดโฟกัสจุดเดียวกลางภาพ เลือกรูปแบบการโฟกัสได้ทั้งออโต้โฟกัส และแมนนวลโฟกัส รวมทั้งระบบโฟกัสตรวจจับใบหน้า Face Detection ด้วย

G11 ปรับตั้งความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO80-3200 และเลือกใช้งานแบบออโต้ซึ่งกล้องจะปรับให้ตามความเหมาะสม การปรับตั้งความไวแสงยังคงเป็นเอกลักษณ์ของกล้องตระกูลนี้มาตั้งแต่รุ่น G7 โดยออกแบบเป็นแป้นหมุน ต่างจากกล้องรุ่นอื่นๆ ที่เป็นการปรับตั้งจากเมนู รวมทั้งการปรับโหมดถ่ายภาพและปรับชดเชยแสง ซึ่งใช้แบบแป้นหมุนเช่นเดียวกัน ระบบการจัดการ Noise ถือว่าทำได้อย่างดีเยี่ยม โดยเมื่อถ่ายที่ความไวแสงสูงๆ อย่างเช่น ISO1600 หรือ ISO 3200 ผลที่ได้คือมี noise ที่ลดลงกว่ารุ่นเดิมมากทีเดียว

ด้านไวท์บาลานซ์ เลือกใช้งานได้แบบออโต้เช่นเดียวกัน หรือจะเลือกใช้ตามสภาพแสง โดยเลือกได้แบบ Daylight, Cloudy, Tungsten, Fluorescent, Flash, Under Water และปรับเองแบบ Custom 2 แบบ การปรับตั้งแบบ Custom มีประโยชน์เมื่อต้องถ่ายภาพในสภาพแสงที่ซับซ้อน มีแสงหลายรูปแบบ จากแหล่งกำเนิดแสงหลายประเภท ทำให้เลือกได้ยากว่าจะตั้งไวท์บาลานซ์แบบใด หรือเมื่อตั้งแบบออโต้แล้ว สีสันที่ได้ก็ไม่ตรงตามจริง

วิธีตั้งไวท์บาลานซ์แบบ Custom อันดับแรกกดปุ่มฟังก์ชั่น (Func) เลือกไวท์บาลานซ์มาที่ตำแหน่ง Custom 1 หรือ 2 เล็งกล้องไปยังซับเจคต์สีขาว จากนั้นกดปุ่มเมนูค้างไว้ มอนิ-เตอร์จะกลายเป็นสีดำชั่วครู่และมีเสียงปี๊บ แสดงว่ากล้องปรับตั้งไวท์บาลานซ์แบบ Custom เรียบร้อยแล้ว สามารถถ่ายภาพต่อได้เลยทันที และถ้าถ่ายภาพด้วยโหมด Quick Shot ให้กดปุ่ม DISP แทนปุ่มเมนู

G11 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว ซึ่งเลือกการทำงานได้หลายรูปแบบ อาทิ ทำงานต่อเนื่องตลอดเวลา ทำงานเมื่อกดชัตเตอร์ถ่ายภาพ และทำงานสัมพันธ์กับรูปแบบการแพนกล้อง หรือจะปิดการใช้งานเมื่อถ่ายภาพในสภาพแสงปกติ และได้ความเร็วชัตเตอร์สูงพอที่จะใช้มือถือกล้องถ่ายภาพได้ หรือหยุดจังหวะการเคลื่อนไหวได้

การออกแบบ
เมื่อมองคร่าวๆ รูปลักษณ์ของ G11 แทบจะไม่ได้แตกต่างจาก G10 มากนัก ที่เห็นได้ชัดเจนคือจอมอนิเตอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อยและปรับหมุนได้เท่านั้น แต่ความแตกต่างของ G11 กับ G10 มีอยู่หลายจุดทีเดียว เช่น ปุ่มเปิด-ปิดการทำงานที่อยู่ด้านหลังปุ่มชัตเตอร์เปลี่ยนจากแบบสี่เหลี่ยมเป็นแบบกลม ผิวตัวกล้องด้านบนเปลี่ยนเป็นแบบเรียบแทนลายพ่นทรายแบบเดิม ชื่อรุ่นถูกย้ายไปอยู่ที่ข้างๆ แป้นปรับชดเชยแสง และโลโก้ G11 ถูกยกขึ้นมาอยุ่เหนือกริป แทนรุ่นเดิมที่อยู่ด้านล่างของกริปมือจับ ซึ่งจะไม่โดนบังเมื่อถือกล้อง

แป้นปรับชดเชยแสง แป้นปรับความไวแสง และแป้นปรับโหมดถ่ายภาพยังคงรูปแบบเดิม แต่มีรายละเอียดเพิ่มขึ้นมาคือ ความไวแสงสูงสุดปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น ISO3200 และตัดความไวแสงแบบ Hi ออกไป โหมดถ่ายภาพเพิ่มโหมดถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยมาแทน ซึ่งกล้องจะปรับความไวแสงให้สูงสุดถึง ISO12800 และเพิ่มโหมดถ่ายภาพ Quick Shooting ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพและปรับเปลี่ยนค่าการปรับตั้งกล้องต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

จอมอนิเตอร์ด้านหลังมีขนาด 2.8 นิ้ว ความละเอียด 461,000 พิกเซล เปลี่ยนเป็นแบบปรับหมุนได้ ซึ่งเคยมีใช้ในกล้อง G Series รุ่นก่อนหน้านี้ช่วยให้ถ่ายภาพในมุมองแบบต่างๆ ทั้งมุมสูง มุมต่ำ และมุมมองที่เข้าถึงได้ลำบากได้สะดวกมากขึ้น

การควบคุมการทำงานของกล้องด้วยปุ่มควบคุม 4 ทิศทาง ยังคงวางรูปแบบเหมือนเดิม รวมทั้งการใช้งานแป้น Control Dial ด้วย โดยเมื่อเลือกเมนูการทำงานใดๆ ผู้ใช้สามารถหมุนแป้น Control Dial เพื่อเลือกเมนูต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อเลือกโหมด Quick Shot ผู้ใช้กดปุ่มควบคุม 4 ทิศทางเลือกเมนูที่ต้องการปรับตั้ง และหมุนแป้น Control Dial สำหรับปรับตั้งค่าที่ต้องการได้ทันที ซึ่งเมื่อเลือกเมนูใดๆ กล้องจะแสดงคำอธิบายถึงเมนูต่างๆ ให้ทราบด้วย

ปุ่มควบคุม 4 ทิศทางด้านล่างใช้สำหรับตั้งเวลาถ่ายภาพ ในรุ่น G10 ใช้สำหรับตั้งการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วย ส่วนใน G11 ปรับย้ายระบบถ่ายภาพต่อเนื่องไปรวมอยู่กับปุ่มฟังก์ชั่นแทน ปุ่มควบคุม 4 ทิศทางด้านบนใช้งานสำหรับการปรับโฟกัสแบบแมนนวลเช่นเดิม โดยเมื่อเลือกโฟกัสแมนนวล กล้องจะซูมตรงกลางภาพให้ผู้ใช้มองเห็นผลของการปรับโฟกัสได้ชัดเจนขึ้น พร้อมทั้งมีสเกลระยะโฟกัสโชว์ที่ริมขวาของจอมอนิเตอร์ด้วย

เมนู
เมนูการทำงานของ G11 ออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน การปรับตั้งเมนูการทำงานต่างๆ แยกการควบคุมเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกปรับตั้งจากปุ่มเมนู มีเมนูการทำงานหลักๆ 2 กลุ่ม คือเมนูในหมวดถ่ายภาพ เริ่มจากเมนูเลือกการโฟกัส แบ่งย่อยเป็นเมนู Flexi Zone ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกจุดโฟกัสเองได้ และ Face AiAF ซึ่งกล้องจะปรับโฟกัสที่ใบหน้าอัตโนมัติ พร้อมกับวัดแสงให้พอดีอัตโนมัติ รวมทั้งโฟกัสติดตามอัตโนมัติ เมื่อซับเจคต์เคลื่อนที่ด้วย และเมื่อถ่ายภาพทั่วๆ ไปที่ไม่มีบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง กล้องจะปรับเลือกการโฟกัสกลางภาพเท่านั้น

เมนูอื่นๆ อาทิ เลือกใช้การปรับซูมแบบดิจิตอล การเลือกปรับโฟกัสต่อเนื่อง การเลือกซูมจุดโฟกัสแบบแมนนวล เลือกการควบคุมแฟลชเลือกใช้งานฟังก์ชั่น i-Contrast หรือเลือกใช้ฟังก์ชั่น Blink Detection เป็นต้น การปรับเลือกเมนูต่างๆ ทำได้โดยการกดปุ่มเมนู แล้วใช้ปุ่มควบคุม 4 ทิศทาง บน-ล่าง เลือกเมนูที่ต้องการ หรือจะใช้แป้น Control Dial หมุนเลือกก็ได้เช่นกัน จากนั้นใช้ปุ่มควบคุม 4 ทิศทางซ้าย-ขวาเลือกค่าเมนูที่ต้องการปรับตั้ง

เมนูหมวดที่สอง เป็นเมนูปรับตั้งค่าการทำงานหลักของกล้อง อาทิ ปิดเสียงการทำงานของกล้องทั้งหมด สำหรับกรณีที่ถ่ายภาพในที่ที่ต้องการความเงียบเป็นพิเศษ ซึ่งจะไม่ได้ยินทั้งเสียงกดชัตเตอร์ด้วย ถัดไปเป็นเมนูเลือกเสียงการทำงาน เลือกปรับความสว่างของจอมอนิเตอร์ เลือกฟอร์แมตเมมโมรี่การ์ด ตั้งวันที่และเวลา เลือกภาษาที่ใช้งาน และเลือกยกเลิกการปรับตั้งทั้งหมด เป็นต้น

การปรับตั้งเมนูการทำงานอีกรูปแบบหนึ่งเป็นการปรับตั้งจากปุ่มฟังก์ชั่น (Func) ซึ่งเป็นเมนูการทำงานในโหมดถ่ายภาพทั้งหมด เมื่อกดปุ่มฟังก์ชั่น กล้องจะโชว์เมนูหลักที่ริมด้านซ้ายของจอมอนิเตอร์ และมีเมนูย่อยวางเรียงที่ด้านล่างของจอมอนิเตอร์ การตั้งค่าเมนูต่างๆ ใช้ปุ่มควบคุม 4 ทิศทางขึ้น-ลง เพื่อเลือกเมนูที่ต้องการ ใช้ปุ่มด้านซ้าย-ขวาเลือกค่าที่ต้องการปรับตั้ง หรือใช้แป้น Control Dial หมุนเลือกจะสะดวกและรวดเร็วมากกว่า

เมนูในกลุ่มนี้ เริ่มจากการปรับตั้งไวท์บาลานซ์ การปรับตั้งรูปแบบภาพ (My Color) การเลือกใช้งานถ่ายภาพคร่อม การปรับชดเชยแสงแฟลช การเลือกใช้ ND Filter ซึ่งใช้สำหรับลดแสง ในกรณีที่ต้องการภาพผลพิเศษบางอย่าง เช่น ต้องการชัตเตอร์ที่ช้าลง หรือต้องการรูรับแสงที่กว้างกว่าที่วัดแสงได้ เป็นต้น ถัดไปเป็นการตั้งค่าถ่ายภาพต่อเนื่อง และปรับขนาดของภาพ ซึ่งสามารถเลือกบันทึกภาพฟอร์แมต RAW ได้จากเมนูนี้ด้วย ส่วนการเลือกบันทึกแบบ RAW+JPEG ต้องเลือกปรับจากปุ่มเมนู โดยเลือกมาที่เมนู Record RAW+JPEG และเลือกตั้งค่าเป็น On

นอกจากนี้ เมื่อผู้ใช้มีการปรับตั้งกล้องที่เป็นรูปแบบการถ่ายภาพเฉพาะอย่าง หรือตั้งเป็นค่าการถ่ายภาพเฉพาะตัว สามารถตั้งค่านั้นๆ บันทึกเป็นโหมด Custom และเลือกใช้งานได้อย่างรวดเร็วจากแป้นหมุนปรับโหมดถ่ายภาพ ซึ่งเลือกบันทึกได้ 2 ค่าคือ Custom 1 (C1) และ Custom 2 (C2)

การใช้งาน
เนื่องจากถูกวางตัวเป็นกล้องระดับไฮเอนด์ จึงมีฟังก์ชั่นการทำงานมากมาย และมีโหมดถ่ายภาพครอบคลุมการใช้งานทุกระดับ ตั้งแต่มือสมัครเล่นที่ต้องการกล้องถ่ายภาพคุณภาพสูง และมืออาชีพที่ต้องการไฟล์ภาพคุณภาพสูง และปรับควบคุมการทำงานได้ไม่ต่างจากกล้อง DSLR เท่าใดนัก

นอกจากการปรับเปลี่ยนมาใช้จอมอนิเตอร์แบบปรับหมุนได้แล้ว G11 ยังปรับลดความละเอียดของภาพจาก 14 ล้านพิกเซลในรุ่น G10 มาเป็น 10 ล้านพิกเซลในรุ่นนี้ โดยทางแคนนอนให้เหตุผลว่าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล เป็นความละเอียดสูงสุดที่เหมาะสมที่ผู้ใช้กล้องคอมแพคส่วนใหญ่เลือกใช้งาน

ตัวบอดี้ของ G11 ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม โดยโครงสร้างแบบนี้ถูกใช้งานมาตั้งแต่รุ่น G7 ผู้ใช้หลายๆ คนชอบด้วยเหตุผลที่เหมือนกล้องโบราณ ดูคลาสสิก แต่ขณะเดียวกันก็แฝงไว้ด้วยประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง ตัวกล้องได้รับการออกแบบอย่างแข็งแรง ปุ่มและแป้นปรับการทำงานต่างๆ ถูกวางตำแหน่งอย่างลงตัวและง่ายต่อการใช้งาน

แป้นปรับโหมดถ่ายภาพวางซ้อนอยู่บนแป้นปรับความไวแสง การปรับควบคุมแป้นทั้งสองได้ด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ไม่ได้ลำบากนัก การล็อคตำแหน่งต่างๆ ของแป้นแน่นดีมาก ซึ่งป้องกันการเปลี่ยนโดยไม่ตั้งใจได้ด้วย ปุ่มกดชัตเตอร์และก้านโยกปรับซูมมีขนาดเล็กกว่ากล้องอื่นๆ แต่ก็ใช้งานได้คล่องตัวดีทีเดียว

เมื่อเปิดสวิตช์การทำงานกล้องมีการตอบสนองที่เร็วมาก และพร้อมทำงานในทันที การปรับโฟกัสทำได้ดี ถึงแม้จะไม่เทียบเท่ากล้อง DSLR แต่ก็ถือว่าเร็วพอสมควรสำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป และสามารถปรับโฟกัสได้ดีแม้จะถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย นั่นก็เพราะว่าใช้เลนส์ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างถึง f/2.8 นั่นเอง

การควบคุมด้วยแป้น Control Dial ทำได้สะดวกและรวดเร็วมาก ทั้งในส่วนของการถ่ายภาพและพรีวิวภาพ โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพด้วย Quick Shot ผมปรับเปลี่ยนค่าการทำงานของกล้องได้อย่างรวดเร็ว เพราะสามารถเปลี่ยนค่าการทำงานที่จำเป็นทั้งหมด โดยเฉพาะการเปลี่ยนไวท์บาลานซ์และสลับใช้งานระหว่าง JPEG กับ RAW จุดเด่นๆ ที่น่าประทับใจอีกอย่างหนึ่งคือ การจัดการ noise ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อถ่ายภาพด้วยความไวแสงสูงๆ อย่างเช่น ISO1600 ภาพที่ได้ใสเคลียร์มาก และมีการจัดการ noise ดีกว่า G10 มากทีเดียว

นอกจากนี้ G11 ยังสามารถใช้งานกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น แฟลชเฉพาะกิจแบบเดียวกับที่ใช้กับกล้อง DSLR และอะแดปเตอร์เสริมระยะของเลนส์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกล้องให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งถ้าหากว่าคุณต้องการกล้องคอมแพคระดับสูง มีฟังก์ชั่นการทำงานตอบสนองการทำงานได้ครบถ้วนทั้งระดับสมัครเล่นและมืออาชีพ Canon PowerShot G11 ตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างสมบูรณ์



ราคา: 10,500 บาทต้องการ: ขาย
ติดต่อ: BOYอีเมล์: 
สภาพ: มือสอง จังหวัด: 
โทรศัพย์: 0856895382IP Address: 124.121.211.xx
มือถือ: -



ดูสินค้าอื่นๆ | ลงประกาศ | เลื่อนประกาศขึ้น | ลบประกาศ | แก้ไขประกาศ

[ รับจำนอง ขายฝาก บ้าน ที่ดิน ทั่วประเทศ กู้เงินง่าย ได้เงินไว ไม่เช็คแบล็คลิส ]





ประกาศอื่นๆในหมวดหมู่เดียวกัน 20 รายการ (แสดงทั้งหมด)

รูป   รายละเอียด ราคา
  2,800 บาท
 
  7,500
  14,900
  4,000
  1,500
  ทุกราคา
  250 บาท
  22,000
  7,500
  50 บาท
  1,900 บาท
  20,500
  190 บาท
  5,300 บาท
  10,500
  30,000
  10,000
  6,000 บาท
  10,500 บาท